Blockchain Layer 0, 1, 2 และ 3 คืออะไร? โครงสร้าง วิธีทำงาน และตัวอย่างเหรียญสำคัญ

 

Blockchain Layer คืออะไร? เทคโนโลยีบล็อกเชน (Blockchain) ถูกพัฒนาขึ้นเพื่อเป็นระบบบัญชีแบบกระจายศูนย์ (Decentralized Ledger) ซึ่งช่วยให้การทำธุรกรรมดิจิทัลมีความปลอดภัยและสามารถตรวจสอบได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตาม เมื่อปริมาณธุรกรรมเพิ่มขึ้น การพัฒนาเพื่อให้สามารถขยายขนาดได้จึงเป็นสิ่งสำคัญ นี่คือเหตุผลที่บล็อกเชนถูกแบ่งออกเป็นหลายเลเยอร์ (Layers) เพื่อลดภาระของเครือข่ายหลัก และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำธุรกรรม


Blockchain Layer 0 คือเลเยอร์ที่ให้การเชื่อมต่อระหว่างบล็อกเชนต่าง ๆ โดยมีหน้าที่หลักในการจัดการข้อมูลที่จำเป็นสำหรับการสื่อสารระหว่างเครือข่ายต่าง ๆ นอกจากนี้ยังช่วยให้การโอนข้อมูลระหว่างบล็อกเชนสามารถทำได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย โดยตัวอย่างเหรียญที่อยู่ในเลเยอร์นี้ ได้แก่ Polkadot ที่ช่วยเชื่อมต่อบล็อกเชนหลาย ๆ เครือข่ายเข้าด้วยกัน

Blockchain Layer 1 เป็นเลเยอร์หลักของบล็อกเชนซึ่งมีการดำเนินการทำธุรกรรมและรักษาความปลอดภัยของเครือข่าย โดยเลเยอร์นี้จะจัดการกับการบันทึกและยืนยันธุรกรรม เช่น Bitcoin และ Ethereum ซึ่งเป็นตัวอย่างเหรียญที่อยู่ในเลเยอร์นี้ โดยเลเยอร์ 1 มักจะเผชิญกับปัญหาการขยายขนาดในกรณีที่มีธุรกรรมจำนวนมาก

ในขณะที่ Blockchain Layer 2 เป็นเลเยอร์ที่สร้างขึ้นเพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของเลเยอร์ 1 โดยจะใช้เทคนิคต่าง ๆ เช่น การทำธุรกรรมแบบข้ามเครือข่ายหรือการจัดกลุ่มธุรกรรมเพื่อทำให้สามารถรองรับธุรกรรมได้มากขึ้น ตัวอย่างเหรียญในเลเยอร์นี้ได้แก่ Lightning Network ที่ทำให้ Bitcoin สามารถทำธุรกรรมได้รวดเร็วขึ้น

สุดท้าย Blockchain Layer 3 เป็นเลเยอร์ที่มีการใช้งานในระดับสูง เช่น แอปพลิเคชันที่ใช้บล็อกเชนเพื่อการพัฒนาฟีเจอร์ใหม่ ๆ หรือการสร้าง Smart Contracts โดยเลเยอร์นี้จะช่วยให้ผู้พัฒนาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์และบริการที่แตกต่างกันออกไป โดยไม่ต้องพึ่งพาการทำงานของเลเยอร์ 1 และ 2 มากนัก